วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555


คำถามทบทวนบทที่  4
1.  ผู้ใช้มีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบสารสนเทศอย่างไรบ้าง
ตอบ   ผู้ใช้ระบบ  (System  User)  หมายถึงผู้จัดการที่ควบคุมและดูแลระบบสารสนเทศขององค์การและ/หรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานกับระบบสารสนเทศ  ผู้ใช้จะเป็นบุคคลที่ใช้งานและปฏิสัมพันธ์กับระบบสารสนเทศโดยตรง  ดังนั้นผู้ใช้ระบบจึงควรมีบทบาทที่สำคัญในการพัฒนาระบบสารสนเทศ  ตั้งแต่เริ่มต้นที่จะพัฒนาระบบใหม่ให้กับองค์การ  โดยบุคคลหรือกลุ่มควรที่จะมีการทำงานที่ใกล้ชิดกับทีมงานผู้พัฒนาระบบหรือเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานผู้พัฒนาระบบ  เพื่อให้การพัฒนาระบบใหม่สำเร็จลงด้วยดีทั้งในด้านงบประมาณ  กรอบของระยะเวลา  และตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ

2.  ปัจจัยที่ช่วยให้การพัฒนาระบบสารสนเทศประสบความสำเร็จมีอะไรบ้าง
ตอบ   ปัจจัยที่ช่วยให้การพัฒนาระบบสารสนเทศประสบความสำเร็จ  คือ
                1.  ผู้ใช้ระบบ สมควรต้องมีส่วนร่วมตลอดกระบวนการพัฒนาระบบ
                2.  การวางแผน  ระบบงานที่มีประสิทธิภาพจะเกิดจากการวางแผนการพัฒนาระบบอย่างรอบคอบและเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน
                3.  การทดสอบ  ทีมงานพัฒนาระบบต้องออกแบบกระบวนการดำเนินงานของระบบที่กำลังศึกษา
                4.การจัดเก็บเอกสาร  การพัฒนาระบบต้องมีระบบจัดเก็บเอกสารที่สมบูรณ์  ชัดเจนถูกต้อง  ง่ายต่อการค้นหาและอ้างอิง
                5.การเตรียมความพร้อม  มีการวางแผนสร้างความเข้าใจและฝึกอบรมผู้ใช้ระบบ  เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความมั่นใจว่าผู้ใช้ระบบจะมีความพอใจ
                6.  การตรวจสอบและประเมินผล  โดยดำเนินการเป็นระยะ ๆ  ภายหลักจากติดตั้งระบบเพื่อที่จะพิจารณาว่าระบบสารสนเทศใหม่มีความสมบูรณ์ 
                7.การบำรุงรักษา  ระบบสารสนเทศที่ดีไม่เพียงแต่สามรถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น  แต่ต้องออกแบบให้กระบวนการบำรุงรักษาสะดวก  ง่าย  และประหยัด 
                8.  อนาคต  เตรียมพร้อมสำหรับพัฒนาการในอนาคต  ทีมงานพัฒนาระบบสมควรออกแบบระบบให้มีความยืดหยุ่นและสามารถที่จะพัฒนาในอนาคต

3.  หน้าที่สำคัญของนักวิเคราะห์ระบบในการพัฒนาระบบสารสนเทศมีอะไรบ้าง
ตอบ  หน้าที่สำคัญของนักวิเคราะห์ระบบมีดังนี้
                1.  ติดต่อประสานงานกับผู้ใช้ระบบในหน่วยงานต่าง ๆ  รวมทั้งผู้บริหารทุกระดับที่เกี่ยวข้องตลอดช่วงระยะพัฒนาระบบใหม่
                2.  รวบรวมข้อมูลของระบบเดิมเพื่อให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และนำไปใช้เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งในการพัฒนาระบบใหม่
                3.  วางแผนในแต่ละขั้นตอนของงานให้สอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบัน  และวางแผนให้สอดรับกับการขยายตัวขององค์การในอนาคตด้วย
                4.  ทำการออกแบบการทำงานของระบบใหม่ให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ และมีความเหมาะสมมากที่สุด
                5.  วิเคราะห์เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกับผลประโยชน์ที่จะได้รับ
                6.  วิเคราะห์ข้อกำหนดด้านฐานข้อมูล  รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างฐานข้อมูลที่สามารถใช้กับงานต่าง ๆ  ในระบบได้ 
                7.  ทำเอกสารประกอบในแต่ละขั้นตอนของการวิเคราะห์ระบบโดยละเอียด


4.  ทีมงานพัฒนาระบบสารสนเทศมีลักษณะอย่างไร  ประกอบด้วยบุคคลใดบ้าง  เพราะเหตุใดจึงต้องปฏิบัติงานร่วมกัน
ตอบ  ทีมงานพัฒนาระบบ  (System Development Team) เป็นกลุ่มบุคคลที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบ และ/หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการพัฒนาระบบ ปกติการออกแบบและพัฒนาระบบสารสนเทศในองค์การขนาดใหญ่ จะต้องมีการทำงานร่วมกันของสมาชิกทั้งหลายส่วน
                มีบุคคลกรดังนี้
                1.  คณะกรรมการดำเนินงาน  (Steering Committee) มีหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกัลป์การดำเนินงานของโครงการพัฒนาระบบ
                2.  ผู้จัดการระบบสารสนเทศ  (MIS Manager) เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่ดูแลและประสานงานในการวางแผนงานของโครงงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและการพัฒนาระบบสารสนเทศขององค์การ
                3.  ผู้จัดการโครงการ  (Project Manager) เป็นบุคคลที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการวางแผน การจัดการ และควบคุมให้งานแต่ละโครงการดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
                4.  นักวิเคราะห์ระบบ  (System Analyst) เป็นบุคคลสำคัญที่ก่อให้เกิดผลงานขึ้นในขั้นตอนต่าง ๆ ของการพัฒนาระบบ
                5.  นักเขียนโปรแกรม  (Programmer)  เป็นบุคคลสำคัญที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการพัฒนาชุดคำสั่งการดำเนินงานให้กับระบบที่กำลังพัฒนา
                6 .  เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูล  (Information Center Personnel) ทำหน้าที่ช่วยเหลือนักวิเคราะห์ระบบและนักเขียนโปรแกรมในการพัฒนาระบบ
                7.  ผู้ใช้และผู้จัดการทั่วไป  (User and General Manager) เป็นบุคคลที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบงานเดิม  


5.  วิธีพื้นฐานที่ใช้ในการพัฒนาระบบสารสนเทศมีกี่วิธี  อะไรบ้าง
ตอบ  วิธีพื้นฐานในการพัฒนาระบบสารสนเทศมี  4  วิธีดังต่อไปนี้
                1.  วิธีเฉพาะเจาะจง  (Ad Hoc Approach) เป็นวิธีการแก้ปัญหาในงานใดงานหนึ่งโดยเฉพาะ
                2.  วิธีสร้างฐานข้อมูล  (Database Approach) เป็นวิธีการที่นิยมใช้ในหลายองค์การที่ยังไม่มีความต้องการระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์
                3.  วิธีจากล่างขึ้นบน  (Bottom-Up Approach) เป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศจากระบบเดิมที่มีอยู่ภายในองค์การไปสู่ระบบใหม่ที่ต้องการ
                4.  วิธีจากบนลงล่าง  (Top-Down Approach) เป็นวิธีการพัฒนาระบบจากนโยบายหรือความต้องการของผู้บริหารระดับสูง

6.  การพัฒนาระบบสารสนเทศประกอบด้วยกี่ขั้นตอน  อะไรบ้าง
ตอบ  การพัฒนาระบบสารสนเทศมี  5  ขั้นตอนดังต่อไปนี้
                1.  การสำรวจเบื้องต้น  (Preliminary Investigation) เป็นขั้นตอนแรกของการวิเคราะห์และพัฒนาระบบสารสนเทศ
                2.  การวิเคราะห์ความต้องการ  (Requirement Analysis) เป็นขั้นตอนที่มุ่งเจาะลึกลงในรายละเอียดที่มากกว่าในขั้นสำรวจเป็นต้น
                3.  การออกแบบระบบ  (System Design) ทีมงานพัฒนาระบบจะทำการออกแบบรายละเอียดส่วนต่าง ๆ ของระบบสารสนเทศ
                4.  การจัดหาอุปกรณ์ของระบบ  (System Acquisition) ทีมงานพัฒนาระบบจะต้องกำหนดส่วนประกอบของระบบทั้งในด้านของอุปกรณ์และชุดคำสั่ง ตลอดจนบริการต่าง ๆ
                5.  การติดตั้งระบบและการบำรุงรักษา  (System Implementation and Maintenance) ทีมงานพัฒนาระบบจะควบคุมและดูแลการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ของระบบใหม่  


7.  ทีมงานพัฒนาระบบสมควรต้องทำอะไรบ้างในขั้นสำรวจเบื้องต้น
ตอบ  การสำรวจเบื้องต้น  (Preliminary Investigation) เป็นขั้นตอนแรกของการวิเคราะห์และพัฒนาระบบสารสนเทศ โดยผู้พัฒนาระบบจะสำรวจหาข้อมูลในประเด็นต่าง  เกี่ยวกับระบบงาน ได้แก่ ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ความเป็นได้ของการพัฒนาระบบที่ต้องการ

8.  ทีมงานพัฒนาระบบสมควรต้องทำอะไรบ้างในขั้นวิเคราะห์ความต้องการ
ตอบ  การวิเคราะห์ความต้องการเป็นขั้นตอนที่มุ่งเจาะลึกลงในรายละเอียดที่มากกว่าในขั้นสำรวจเบื้องต้น  โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของผู้ใช้

9.  ทีมงานพัฒนาระบบสมควรต้องทำอะไรบ้างในขั้นออกแบบระบบ
ตอบ  ทีมงานพัฒนาระบบจะทำการออกแบบรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ  ของระบบสารสนเทศ ได้แก่  การแสดงผลลัพธ์  การป้อนข้อมูล  กระบวนการเก็บรักษา  การปฏิบัติงาน  และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับระบบงานใหม่

10.  ทีมงานพัฒนาระบบสมควรต้องทำอะไรบ้างในขั้นจัดหาอุปกรณ์ของระบบ
ตอบ  การจัดหาอุปกรณ์ของระบบ  ทีมงานพัฒนาระบบจะต้องกำหนดส่วนประกอบของระบบทั้งในด้านของอุปกรณ์และชุดคำสั่ง  ตลอดจนบริการต่าง ๆ  ที่ต้องการจากผู้ขาย

11.  ทีมงานพัฒนาระบบสมควรต้องทำอะไรบ้างในขั้นติดตั้งระบบและการบำรุงรักษา
ตอบ  การติดตั้งระบบและการบำรุงรักษา  ทีมงานพัฒนาระบบจะควบคุมและดูแลการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ  ของระบบใหม่  โดยดำเนินการด้วยตัวเองหรือจ้างผู้รับเหมา

12.  รูปแบบของวงจรการพัฒนาระบบที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีกี่รูปแบบ  อะไรบ้าง  จงอธิบาย
ตอบ  รูปแบบของวงจรการพัฒนาระบบที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี  4  รูปแบบ  ดังนี้
                1.รูปแบบน้ำตก  (Waterfall  Model)  วงจรการพัฒนาระบบแบบนี้ได้เผยแพร่ใช้งานในปี  ค.ศ. 1970  เป็นรูปแบบที่มีมานานและเป็นที่นิยมใช้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
                2.รูปแบบวิวัฒนาการ  (Evolutionary  Model)  วงจรการพัฒนาระบบในรูปแบบวิวัฒนาการมีแนวความคิดที่เกิดมาจากทฤษฎีวิวัฒนาการ  โดยพัฒนาระบบจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์
                3.รูปแบบค่อยเป็นค่อยไป  (Incremental  Model)  วงจรการพัฒนาระบบในรูปแบบค่อยเป็นค่อยไปมีลักษณะคล้ายคลึงกับรูปแบบวิวัฒนาการ  แต่มีข้อแตกต่างกันตรงที่ระบบที่ได้ในแต่ละช่วง
                4.รูปแบบเกลียว  (Spiral  Model)  วงจรการพัฒนาระบบในรูปแบบเกลียว  จะมีลักษณะที่กระบวนการวิเคราะห์  การออกแบบ  และการพัฒนา  จะวนกลับมาในแนวทางเดิมเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ

13.  การปรับเปลี่ยนระบบมีกี่วิธี  อะไรบ้าง  จงอธิบาย
ตอบ  การปรับเปลี่ยนระบบมี  4  วิธีดังนี้
                1.  การปรับเปลี่ยนโดยตรง  (Direct Conversion) เป็นการแทนที่ระบบสารสนเทศเดิมด้วยระบบใหม่อย่างสมบูรณ์ โยการหยุดใช้ระบบเก่าอย่างสิ้นเชิงและเปลี่ยนไปใช้ระบบใหม่ในทันที
                2.  การปรับเปลี่ยนแบบขนาน  (Parallel Conversion) เป็นการดำเนินการโดยใช้งานทั้งระบบสารสนเทศเก่าและระบบใหม่ไปพร้อม ๆ กันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง 
                3.  การปรับเปลี่ยนแบบเป็นระยะ  (Phased Conversion) เป็นการปรับเปลี่ยนระบบสารสนเทศเก่าไปใช้ระบบสารสนเทศใหม่เฉพาะงานด้านใดด้านหนึ่งก่อน
                4.  การปรับเปลี่ยนแบบนำร่อง  (Pilot Conversion) เป็นการปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบสารสนเทศใหม่อย่างเป็นขั้นตอนและค่อยเป็นค่อยไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น